การหัดเล่นกีตาร์เบื้องต้น
การเล่นคอร์ดกีตาร์เบื้องต้น
ตรงนี้มี
ความสำคัญมากสำหรับมือใหม่ เพื่อเป็นการฝึกให้คุ้นเคยกับจังหวะดนตรี
การเปลี่ยนคอร์ดที่สัมพันธ์กับจังหวะดนตรีและการตีคอร์ด
ลักษณะของการตีคอร์ดนั้นเราอาจจะเข้าใจว่าคือการใช้ปิคดีดสายกีตาร์ ขึ้น ๆ
ลง ๆ เท่านั้น แต่จริง ๆ มันมีความหมายมากกว่านั้น
เช่นการดีดต้องดีดสายไหนบ้าง ดีดขึ้นกี่ทีลงกี่ที และเมื่ไรจะเปลี่ยนคอร์ด
ดีดแบบเสียงบอดทำยังไงใช้เมื่อไร และปัญหาที่ทุกคนมักจะคิดถึงคือดีดยังไงถึงจะเพราะ ก่อนอื่นเราไปรู้จักอุปกรณ์สำคัญในการตีคอร์ด นั่นคือปิคกีตาร์
ตอนนี้เรามารู้จักการจับปิคกัน
ก่อนนะครับ ซึ่งก็ไม่ได้มีกำหนดกฎเกณฑ์ว่าจับอย่างไรแต่ท่าที่สำคัญคือ
ต้องจับให้มั่นคง และสะดวกในการดีด และถนัดกับตัวคนเล่นเอง
แต่ส่วนใหญ่ที่เป็นแบบที่นิยมกันก็คือการวางปิคลงบนด้านข้างปลายนิ้วชี้
แล้วใช้นิ้วโป้งกดทับ โดยทำมือที่จะจับปิคดังรูปที่ 1 และ 2 ส่วนรูปที่ 3
คือรูปที่จับปิคแล้ว
ลองปรับท่าจับให้มั่นคงแข็งแรงและถนัดที่สุดเพื่อเวลาดีดปิคจะได้ไม่หลุดจาก
มือคราวนี้ลองทดสอบดูครับ ลองจับปิคให้มั่นคง ลองดีดกีตาร์จากสาย 6 ไปหาสาย 1 (สายใหญ่->เล็ก) จากนั้นดีดย้อนขึ้นจากสาย 1 ไปสาย 6 สังเกตการดีดให้จังหวะการดีดแต่ละเส้นนั้นให้เท่ากัน คือเสียงเรียบสม่ำเสมอ ใน ขั้นแรกนี้ลองฝึกให้จังหวะการดีดของคุณสม่ำเสมอก่อนทั้งขึ้และลง ใจเย็น ๆ นะครับอย่าเพิ่งใจร้อนเลยครับ เราเริ่มจากแบบเรียน ก.ไก่ ข.ไข่ ก่อนต่อไปเราถึงจะอ่านหนังสือออกจริงมั๊ยครับ!!!! ลองมาดูท่าทางการดีดที่ถูกต้องนะครับ
เอาล่ะครับตอนนี้ผมถือว่าเพื่อน ๆ คุ้นเคยกับการจับปิคดีดสายกีตาร์แล้วนะครับ ซึ่งหมายถึงคุณสามารถดีดได้อย่างเป็นธรรมชาติ จังหวะสม่ำเสมอ คราวนี้เราจะมาลองดีดกับคอร์ดกีตาร์จริง ๆ ดีกว่า ในขั้นนี้ผมขอแนะนำคอร์ดง่าย ๆ และใช้กันมากเพื่อให้คุณฝึกหัดกันก่อนครับได้แก่ คอร์ด C, Am, Dm, G7 หรือ คอร์ดซี, เอ-ไมเนอร์, ดี-ไมเนอร์ และ จี-เซเว่น เรามาดูโครงสร้างการจับแต่ละคอร์ดกันครับ
ผมขออธิบายนิดนึงนะครับสำหรับการอ่านไดอะแกรมคอร์ด เส้นในแนวตั้ง 6 เส้นหมายถึง สายกีตาร์ 6 สายนั่นเองโดยสาย 6 จะอยู่ทางซ้ายมือสุด และสาย 1 อยู่ทางขวามือสุด ส่วนเส้นแนวนอน หมายถึงเฟร็ตต่าง ๆ ถ้าไม่มีตัวเลขกำหนดจะหมายถึงเริ่มจากเฟร็ตที่ 1 เสมอ จุดดำนั้นคือจุดที่ต้องกดสายและตัวเลขที่อยู่ในจุดดำหมายถึงนิ้วเช่น 1= นิ้วชี้ (ดูสัญลักษณ์มือซ้ายด้านบน) ก็คือใช้นิ้วชี้กด ส่วนเครื่องหมาย X หมายถึงไม่ต้องเล่นสายนั้นเวลาดีด (แล้วจะรู้ว่าทำไมถึงไม่เล่นสายดังกล่าวในภายหลัง) และ O คือ สายเปิดสามารถเล่นได้เวลาดีด
คราวนี้เพื่อน ๆ ลองจับคอร์ดต่าง ๆ ดูครับ ลองฝึกการวางนิ้วแบบที่ได้บอกไปแล้วนะครับลองเปลี่ยนคอร์ดดูคร่าว ๆ เมื่อคุณคุ้นเคยกับการจับคอร์พอสมควรแล้ว เราลองมาใช้ปิคดีดดูทีละสาย เพื่อเช็คว่ามีสายไหนบอดบ้าง โดยใช้ปิคดีดลงทีละสายเช่น คอร์ด C ลองดีดจากสาย 5 -> 4 -> 3 -> 2 -> 1 แล้วสังเกตฟังดูว่าสายใดบอดบ้าง เสียงบอกคือเสียงที่วเลาดีดแล้วไม่ใส ดังแป๊ก ๆ เนื่องจากมีนิ้วใดนิ้วหนึ่งไปโดน คุณลองดูว่ามีส่วนใดของนิ้วอื่นที่ไม่ได้กดเส้นดังกล่าวไปแตะโดนหรือไม่ แล้วพยายามจัดรูปนิ้วใหม่ ไม่ให้ไปโดนสายดังกล่าว
ต่อไปลองดีดเป็นจังหวะ ๆ แล้วเปลี่ยนคอร์ดนะครับโดยการดีดลง 1 ทีนับ 1 เราฝึกโดยดีดลง 4 ครั้งแล้วเปลี่ยนคอร์ดนะครับเริ่มกันเลย
C Am Dm G7https://sites.google.com/site/johnylikemusic/kar-had-len-kitar-beuxng-tn
1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4
นับจังหวะการดีดดังนี้ (ดูจากรูปลูกศรลงคือการดีดลง 1 ครั้ง) จับคอร์ด C ดีดลงนับ 1 ดีดลงนับ 2 ดีดลงนับ 3 ดีดลงนับ 4 เปลี่ยนคอร์ดเป็น Am แล้วดีดเช่นเดิมอีก 4 จังหวะ จึงเปลี่ยนเป็นคอร์ด Dm ดีดอีกสี่จังหวะ เปลี่ยนเป็นคอร์ด G7 ดีดอีก 4 จังหวะแล้วเปลี่ยนกับไปเป็นคอร์ด C .....ทำเช่นนี้ต่อไป
ช่วงแรกขอให้เพื่อน ๆ
ฝึกเท่านี้ก่อนที่จะไปฝึกอย่างอื่น
อย่าลืมนะครับสำคัญมากคุณควรจะฝึกการดีดให้เป็นจังหวะจะโคน
เปลี่ยนคอร์ดให้สัมพันธ์กับจังหวะและการดีดกีตาร์
โดยคุณอาจจะลองเปลี่ยนจากการดีด 4 จังหวะมาเป็น 3 จังหวะแล้วเปลี่ยนคอร์ด 2
จังหวะแล้วเปลี่ยนคอร์ด หรือ 1 จังหวะแล้วเปลี่ยนคอร์ด
และเพิ่มความเร็วในการดีดให้เร็วมากขึ้น
จนคุณรู้สึกว่าคุ้นเคยกับการดีดและการเปลี่ยนคอร์ด อย่าใจร้อนนะครับ
ตอนผมฝึกใหม่ ๆ
ผมหัดแค่นี้แหละครับหัดอยู่หลายวันกว่าจะคล่องจากนั้นจึงค่อยไปหาเพลงที่มี 4
คอร์ดดังกล่าวมาลองเล่นดูแล้วจึงเริ่มศึกษาคอร์ดใหม่ ๆ และเพลงใหม่ ๆ
จะเริ่มเรียนรู้มากขึ้น ดังนั้นใจเย็น ๆ ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า
ที่มา -https://sites.google.com/site/johnylikemusic/kar-had-len-kitar-beuxng-tn
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น