อินเดียสมัยจักรวรรดิ-อังกฤษ
อารยธรรมอินเดียสมัยเมาริยะ
ช่วง 322-184 ก่อนคริสตศักราช เป็นสมัยจักรวรรดิเมาริยะที่ยิ่งใหญ่ของอินเดีย โมริยะ หรือเมารยะ ยึดแค้วนมคธ แล้วขยายอาณาจักรไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ตะวันตก ภาคเหนือ ใต้ มีการติดต่อค้าขายกับเอเชียไมเนอร์ กรีก เมโสโปเตเมีย มีกษัตริย์องค์แรกคือพระเจ้าจันทรคุปต์ กษัตริย์ที่มีชื่อเสียงคือ พระเจ้าอโศกมหาราช ( 273-236 ก่อนคริสตศักราช)ทรงมีอำนาจสูงสุดในการบริหารราชการ ตรากฎหมาย การศาล การทหาร สมัยนี้มีการสร้างถนนเชื่อมภาคตะวันตกเฉียงเหนือ กับกรุงปาฏลีบุตร ทำสำมะโนประชากร ต่อมาพระเจ้าอโศกมหาราชได้หันมานับถือศาสนาพุทธ และทรงเป็นองค์อุปถัมภ์และเผยแพร่พระพุทธศาสนาที่สำคัญ ศิลปะอันเกี่ยวเนื่องกับศาสนาจึงเริ่มเจริญรุ่งเรืองในสมัยของพระองค์ เช่น สถูปต่างๆ ทรงให้มีการจารึกบนเสาหินที่ตั้งอยู่ตามดินแดนต่างๆเป็นหลักของศีลธรรมที่สอดคล้องกับทุกศาสนา (เรียก หัวเสาสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช)
อารยธรรมอินเดียสมัยกุษาณะ
ต่อมา ค.ศ. ที่ 1 พวกกุษาณะผู้เร่ร่อนปกครองตอนเหนืออินเดียมีกษัตริย์ที่สำคัญคือ พระเจ้ากนิษกะปกครองดินแดนที่เรียกว่าแคว้นคันธาระ ราชวงศ์ดังกล่าวนี้ได้รับอิทธิพลกรีก ซึ่งมีความโดดเด่นในด้านการสร้างประติมากรรมรูปเทพเจ้า ทำให้เกิดการสร้างพระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์ตามคตินิกายมหายาน โดยพระพุทธรูปในระยะแรกเริ่มนี้จะมีลักษณะเหมือนจริงตามธรรมชาติ ศิลปะภายใต้การอุปถัมภ์ของราชวงศ์กุษาณะนี้เรียกว่า ศิลปะคันธาระ นอกจากนี้ยังทรงนับถือพุทธนิกายมหายาน โปรดให้จารึกคำสอนของพระพุทธองค์ลงบนแผ่นทองแดง
อารยธรรมอินเดียสมัยคุปตะ
สมัยจักรวรรดิคุปตะ (ค.ศ.320-535) ถือว่าเป็นยุคทองของฮินดูทางตอนเหนือ ต้นคริสต์ศตวรรษทที่ 4 พระเจ้าจันทรคุปต์ที่ 1 ตั้งราชวงศ์คุปตะที่เมืองปัตลีบุตร โอรสของพระองค์ ชื่อ พระเจ้าสมุทรคุปต์ ทรงขยายดินแดนออกไปกว้างไกล ทรงทำเหรียญทองสลักเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์ แล้วนำไปไว้ที่เสาหินของพระเจ้าอโศก ราชวงศ์ คุปตะรุ่งเรืองมากในสมัยของพระเจ้าจันทรคุปต์ ที่ 2 (ค.ศ.376-415) เพราะทรงรวมดินแดนตะวันออกและทางเหนือไว้ในอำนาจ ทรงสนับสนุนศิลปะ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี กวีที่มีชื่อเสียงในสมัยนี้ คือ กลิทัษ การปกครองสมัยคุปตะเป็นแบบกระจายอำนาจไปตามท้องถิ่น มีการค้าขายมากขึ้นกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หมู่เกาะอินโดนีเซีย มาเลเซีย กัมพูชา และประเทศไทย พ่อค้าที่ร่ำรวยนิยมบริจาคเงินเพื่อสร้างงานสำคัญทางศาสนา เช่น สถูปที่สาญจี อมาราวาตี ฯลฯ ภาษาสันสกฤตกลายเป็นภาษาของผู้รู้หนังสือและเป็นภาษาที่ใช้ในราชการ
อารยธรรมอินเดียสมัยกลาง (ค.ศ. 500-1500)
- อินเดียต้องเผชิญกับพวกมุสลิมเผ่าต่างๆที่ขยายอำนาจเข้ามายังดินแดนทางตอนเหนือของอินเดีย
- พวกเติร์กที่มีชัยเหนือดินแดนภาคเหนือตั้งตนเป็นสุลต่านมีกรุงเดลฮีเป็นกลางการปกครอง
- ชาวฮินดูบางส่วนหันมานับถือศาสนาอิสลามเพราะเน้นในเรื่องความเสมอภาค
- การผสมผสานทางวัฒนธรรมระหว่างฮินดู – มุสลิม ทำให้เกิดภาษาอูรดู
- งานศิลปะมักแสดงออกถึงความแข็งแกร่งและอำนาจ เรียกศิลปะสมัยนี้ว่า ปาทาน
อารยธรรมอินเดียสมัยใหม่ภายใต้ราชวงศ์โมกุล (ค.ศ. 1426 – 1458)
- เป็นราชวงศ์สุดท้ายของอินเดีย
- ราชวงศ์โมกุลมีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในสมัยพระเจ้าอักบาร์มหาราช
- พระเจ้าอักบาร์มหาราชทรงทะนุบำรุงอินเดียให้มีความเจริญรุ่งเรืองทุกด้าน และทรงให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา สร้างสามัคคีให้เกิดขึ้นในชาติ
- พระเจ้าซาร์เจฮัน ทรงเป็นมุสลิมที่เคร่งครัดและศรัทธาในศาสนาอิสลามเป็นผู้สร้างทัชมาฮาลที่มีความงดงาม
- ในสมัยราชวงศ์โมกุล(คริสต์ศตวรรษที่ 16 – 18) เป็นสมัยที่มีการแพร่ขยายอิทธิพล วัฒนธรรมโมกุลอย่างกว้างขวาง ทั้งในด้านการปกครอง ภาษา ศิลปะ สถาปัตยกรรม และศาสนาอิสลาม
การขยายอำนาจของอังกฤษในอินเดีย
อังกฤษเริ่มเข้ามามีอิทธิพลในอนุทวีปตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 เพื่อค้าขายพร้อมทั้งครอบครองดินแดนและแทรกแซงในการเมืองท้องถิ่น จนกระทั่งอินเดียตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ในปี พ.ศ. 2420 (ค.ศ. 1877)
ผลกระทบจากการเข้ามาของอังกฤษในอินเดีย
- เกิดรัฐบาลอินเดียภายใต้การปกครองของอังกฤษ โดยมีตัวแทนจากอังกฤษมาเป็นผู้ปกครองเมืองที่สำคัญ ส่วนเมืองที่ไม่สำคัญชนพื้นเมืองปกครองกันเองภายใต้การดูแลของอังกฤษ
- งานหัตถกรรมลดความสำคัญลงหันมาส่งเสริมอุตสาหกรรม
- เป็นแหล่งวัตถุดิบป้อนให้กับโรงงานในอังกฤษ
- ระบบวรรณะได้ผ่อนคลายลง
- การขยายตัวสังคมเมืองสู่สังคมชนบท
- การเลียนแบบวัฒนธรรมตะวันตกทั้งการแต่งกาย วัฒนธรรมและค่านิยม
- ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ และวางรากฐานการศึกษาให้กับอินเดีย
หลังจากการรณรงค์ต่อต้านการปกครองของอังกฤษมาเป็นเวลานาน อินเดียจึงได้รับเอกราชเมื่อปี พ.ศ. 2490 (ค.ศ. 1947) และได้รับการสถาปนาเป็นสาธารณรัฐอินเดีย
ในปี พ.ศ. 2493 (ค.ศ. 1950) มหาตมะ คานธี (Mohandas Karamchand Gandhi มักเรียกกันว่า Mahatma Gandhi) (2 ตุลาคม ค.ศ. 1869 – 30 มกราคม ค.ศ. 1948) เป็นผู้นำและนักการเมืองที่มีชื่อเสียงชาวอินเดีย มหาตมะ คานธี เป็นผู้นำคนสำคัญกับการเคลื่อนไหวเรียกร้องอิสรภาพของอินเดียจากการเป็นอาณานิคมของสหราชอาณาจักร โดยใช้วิธีอหิงสา ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นต้นแบบของการประท้วงแบบสันติที่ได้รับการยกย่อง
ที่มา-https://supawann096.wordpress.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น