คราม

วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

อินเดียสมัยจักรวรรดิเเละภายใต้การปกครองของอังกฤษ

อินเดียสมัยจักรวรรดิ-อังกฤษ


  • อารยธรรมอินเดียสมัยเมาริยะ

         ช่วง 322-184 ก่อนคริสตศักราช เป็นสมัยจักรวรรดิเมาริยะที่ยิ่งใหญ่ของอินเดีย โมริยะ หรือเมารยะ ยึดแค้วนมคธ แล้วขยายอาณาจักรไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ตะวันตก ภาคเหนือ ใต้  มีการติดต่อค้าขายกับเอเชียไมเนอร์ กรีก เมโสโปเตเมีย   มีกษัตริย์องค์แรกคือพระเจ้าจันทรคุปต์  กษัตริย์ที่มีชื่อเสียงคือ พระเจ้าอโศกมหาราช ( 273-236 ก่อนคริสตศักราช)ทรงมีอำนาจสูงสุดในการบริหารราชการ ตรากฎหมาย การศาล การทหาร สมัยนี้มีการสร้างถนนเชื่อมภาคตะวันตกเฉียงเหนือ  กับกรุงปาฏลีบุตร ทำสำมะโนประชากร   ต่อมาพระเจ้าอโศกมหาราชได้หันมานับถือศาสนาพุทธ และทรงเป็นองค์อุปถัมภ์และเผยแพร่พระพุทธศาสนาที่สำคัญ ศิลปะอันเกี่ยวเนื่องกับศาสนาจึงเริ่มเจริญรุ่งเรืองในสมัยของพระองค์ เช่น สถูปต่างๆ  ทรงให้มีการจารึกบนเสาหินที่ตั้งอยู่ตามดินแดนต่างๆเป็นหลักของศีลธรรมที่สอดคล้องกับทุกศาสนา (เรียก หัวเสาสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช)
  • จักรวรรดิเมาริยะ9
    จักรวรรดิเมาริยะ
    แผนที่จักรวรรดิเมาริยะ
    จักรวรรดิเมาริยะ3
    การรบของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์กับพระเจ้าเปารวะ
    จักรวรรดิเมาริยะ2
    การรบของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์กับพระเจ้าเปารวะ
    จักรวรรดิเมาริยะ5
    พระเจ้าอโศกมหาราช
    จักรวรรดิเมาริยะ6
    พระเจ้าอโศกมหาราช
    จักรวรรดิเมาริยะ7
    พระเจ้าอโศกมหาราช
    จักรวรรดิเมาริยะ8
    แผนที่จักรวรรดิเมาริยะสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช
    จักรวรรดิเมาริยะ10
    สถูปที่สาญจี
    จักรวรรดิเมาริยะ11
    สถูปที่สาญจี
  • อารยธรรมอินเดียสมัยกุษาณะ

         ต่อมา ค.ศ. ที่ 1 พวกกุษาณะผู้เร่ร่อนปกครองตอนเหนืออินเดียมีกษัตริย์ที่สำคัญคือ พระเจ้ากนิษกะปกครองดินแดนที่เรียกว่าแคว้นคันธาระ ราชวงศ์ดังกล่าวนี้ได้รับอิทธิพลกรีก ซึ่งมีความโดดเด่นในด้านการสร้างประติมากรรมรูปเทพเจ้า ทำให้เกิดการสร้างพระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์ตามคตินิกายมหายาน โดยพระพุทธรูปในระยะแรกเริ่มนี้จะมีลักษณะเหมือนจริงตามธรรมชาติ  ศิลปะภายใต้การอุปถัมภ์ของราชวงศ์กุษาณะนี้เรียกว่า ศิลปะคันธาระ นอกจากนี้ยังทรงนับถือพุทธนิกายมหายาน  โปรดให้จารึกคำสอนของพระพุทธองค์ลงบนแผ่นทองแดง 
จักรวรรดิกุษาณะ
แผนที่จักรวรรดิกุษาณะ
จักรวรรดิกุษาณะ2
ศิลปะคันธาระ
จักรวรรดิกุษาณะ3
ศิลปะคันธาระ
จักรวรรดิกุษาณะ4
ศิลปะคันธาระ
จักรวรรดิกุษาณะ5
พระพุทธรูปหน้าผาบาบิยาน อัฟกานิสถาน
จักรวรรดิกุษาณะ6
พระพุทธรูปหน้าผาบาบิยาน อัฟกานิสถาน
จักรวรรดิกุษาณะ7
พระโพธิสัตว์ นิกายมหายาน
จักรวรรดิกุษาณะ8
จารึกคำสอนของพระพุทธองค์บนแผ่นทองแดง
  • อารยธรรมอินเดียสมัยคุปตะ    

    สมัยจักรวรรดิคุปตะ (ค.ศ.320-535) ถือว่าเป็นยุคทองของฮินดูทางตอนเหนือ ต้นคริสต์ศตวรรษทที่ 4 พระเจ้าจันทรคุปต์ที่ 1 ตั้งราชวงศ์คุปตะที่เมืองปัตลีบุตร โอรสของพระองค์ ชื่อ พระเจ้าสมุทรคุปต์ ทรงขยายดินแดนออกไปกว้างไกล ทรงทำเหรียญทองสลักเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์ แล้วนำไปไว้ที่เสาหินของพระเจ้าอโศก ราชวงศ์    คุปตะรุ่งเรืองมากในสมัยของพระเจ้าจันทรคุปต์ ที่ 2 (ค.ศ.376-415) เพราะทรงรวมดินแดนตะวันออกและทางเหนือไว้ในอำนาจ  ทรงสนับสนุนศิลปะ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี กวีที่มีชื่อเสียงในสมัยนี้ คือ กลิทัษ การปกครองสมัยคุปตะเป็นแบบกระจายอำนาจไปตามท้องถิ่น มีการค้าขายมากขึ้นกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หมู่เกาะอินโดนีเซีย มาเลเซีย กัมพูชา และประเทศไทย พ่อค้าที่ร่ำรวยนิยมบริจาคเงินเพื่อสร้างงานสำคัญทางศาสนา เช่น สถูปที่สาญจี อมาราวาตี ฯลฯ ภาษาสันสกฤตกลายเป็นภาษาของผู้รู้หนังสือและเป็นภาษาที่ใช้ในราชการ
จักรวรรดิคุปตะ1
แผนที่จักรวรรดิคุปตะ
จักรวรรดิคุปตะ
พระเจ้าจันทรคุปต์
จักรวรรดิคุปตะ2
ช้างศึกของพระเจ้าจันทรคุปต์
จักรวรรดิคุปตะ3
มหาวิทยาลัยนาลันทา
จักรวรรดิคุปตะ4
มหาวิทยาลัยนาลันทา
จักรวรรดิคุปตะ5
พระถังซำจั๋งเมื่อครั้งเดินทางมาถึงนาลันทามหาวิหาร
จักรวรรดิคุปตะ6
ถ้ำอาชันตะ
จักรวรรดิคุปตะ7
ถ้ำอาชันตะ
จักรวรรดิคุปตะ8
พระพุทธรูปศิลปะคุปตะ
จักรวรรดิคุปตะ11
กวีที่มีชื่อเสียง “กลิทัษ”
จักรวรรดิคุปตะ10
ศกุนตลา
  • อารยธรรมอินเดียสมัยกลาง (ค.ศ. 500-1500)

    • อินเดียต้องเผชิญกับพวกมุสลิมเผ่าต่างๆที่ขยายอำนาจเข้ามายังดินแดนทางตอนเหนือของอินเดีย
    • พวกเติร์กที่มีชัยเหนือดินแดนภาคเหนือตั้งตนเป็นสุลต่านมีกรุงเดลฮีเป็นกลางการปกครอง
    • ชาวฮินดูบางส่วนหันมานับถือศาสนาอิสลามเพราะเน้นในเรื่องความเสมอภาค
    • การผสมผสานทางวัฒนธรรมระหว่างฮินดู – มุสลิม ทำให้เกิดภาษาอูรดู
    • งานศิลปะมักแสดงออกถึงความแข็งแกร่งและอำนาจ เรียกศิลปะสมัยนี้ว่า ปาทาน
  • อารยธรรมอินเดียสมัยใหม่ภายใต้ราชวงศ์โมกุล (ค.ศ. 1426 – 1458)

    • เป็นราชวงศ์สุดท้ายของอินเดีย
    • ราชวงศ์โมกุลมีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในสมัยพระเจ้าอักบาร์มหาราช
    • พระเจ้าอักบาร์มหาราชทรงทะนุบำรุงอินเดียให้มีความเจริญรุ่งเรืองทุกด้าน และทรงให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา สร้างสามัคคีให้เกิดขึ้นในชาติ
    • พระเจ้าซาร์เจฮัน ทรงเป็นมุสลิมที่เคร่งครัดและศรัทธาในศาสนาอิสลามเป็นผู้สร้างทัชมาฮาลที่มีความงดงาม
    • ในสมัยราชวงศ์โมกุล(คริสต์ศตวรรษที่ 16 – 18) เป็นสมัยที่มีการแพร่ขยายอิทธิพล วัฒนธรรมโมกุลอย่างกว้างขวาง ทั้งในด้านการปกครอง ภาษา ศิลปะ สถาปัตยกรรม และศาสนาอิสลาม
  • การขยายอำนาจของอังกฤษในอินเดีย

         อังกฤษเริ่มเข้ามามีอิทธิพลในอนุทวีปตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 เพื่อค้าขายพร้อมทั้งครอบครองดินแดนและแทรกแซงในการเมืองท้องถิ่น จนกระทั่งอินเดียตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ในปี พ.ศ. 2420 (ค.ศ. 1877)
  • ผลกระทบจากการเข้ามาของอังกฤษในอินเดีย

    • เกิดรัฐบาลอินเดียภายใต้การปกครองของอังกฤษ โดยมีตัวแทนจากอังกฤษมาเป็นผู้ปกครองเมืองที่สำคัญ ส่วนเมืองที่ไม่สำคัญชนพื้นเมืองปกครองกันเองภายใต้การดูแลของอังกฤษ
    • งานหัตถกรรมลดความสำคัญลงหันมาส่งเสริมอุตสาหกรรม
    • เป็นแหล่งวัตถุดิบป้อนให้กับโรงงานในอังกฤษ
    • ระบบวรรณะได้ผ่อนคลายลง
    • การขยายตัวสังคมเมืองสู่สังคมชนบท
    • การเลียนแบบวัฒนธรรมตะวันตกทั้งการแต่งกาย วัฒนธรรมและค่านิยม
    • าษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ และวางรากฐานการศึกษาให้กับอินเดีย
หลังจากการรณรงค์ต่อต้านการปกครองของอังกฤษมาเป็นเวลานาน อินเดียจึงได้รับเอกราชเมื่อปี พ.ศ. 2490 (ค.ศ. 1947) และได้รับการสถาปนาเป็นสาธารณรัฐอินเดีย
ในปี พ.ศ. 2493 (ค.ศ. 1950)  มหาตมะ คานธี (Mohandas Karamchand Gandhi   มักเรียกกันว่า Mahatma Gandhi) (2 ตุลาคม ค.ศ. 1869 – 30 มกราคม ค.ศ. 1948) เป็นผู้นำและนักการเมืองที่มีชื่อเสียงชาวอินเดีย  มหาตมะ คานธี เป็นผู้นำคนสำคัญกับการเคลื่อนไหวเรียกร้องอิสรภาพของอินเดียจากการเป็นอาณานิคมของสหราชอาณาจักร โดยใช้วิธีอหิงสา ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นต้นแบบของการประท้วงแบบสันติที่ได้รับการยกย่อง
ที่มา-https://supawann096.wordpress.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น